สถานที่ของท่องเที่ยวของแขวงจำปาสัก

สหวัดดีครับเพื่อนๆวันนี้ผมได้เอาเรื่องเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวของภาคใต้มาฝากครับเพื่อมีใครสนใจไปเที่ยวชมกันครับ ซึ่งผมจะได้แบ่งเป็นสองบทละกันเพราะเรื่องมันยาวมากๆ ผมขอแยก section นี้เป็นการท่องเที่ยวไปกับสถานที่สำคัญละกัน และ section หน้าผมจะเขียนในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาตินะครับ 

"แขวงจำปาสัก" เป็น แขวงที่มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และทางประวัติศาสตร์ที่ให้เยี่ยมชม และแต่ละแห่งอยู่ไกลกันค่อนข้างมากต้องใช้เวลาในการเดินทาง ดังนั้นควรมีเวลาสัก 3 วัน 2 คืน เพื่อจะได้เที่ยวชมสถานที่ต่างๆได้ครบ โดยแต่ละสถานที่ ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปชมความ ยิ่งใหญ่ของน้ำตกคอนพะเพ็งและ หลี่ผีต่อด้วยการชม ปราสามวัดพูโบราณสถานครั้งเก่าก่อนนครวัดที่ได้รับการยอมรับจากองค์การ Unesco ให้เป็นมรดกโลก

"ปากเซ เมือง หลวงของแขวงจำปาสัก"   จากชายแดนช่องเม็กในอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี  ผ่านด่านวังเต่า  ชายแดนของลาวที่ชาวบ้านจำนำสินค้ามาวางขาย นักท่องเที่ยวสามารถแวะชม แวะซื้อได้ตามสะดวก จากนั้นมาตามทางหลวงหมายเลข 10  ซึ่งเป็นถนนลาดยางอย่างดี ระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตรก็จะถึงสะพานมิตรภาพ ลาว-ญี่ปุ่น มีความยาว 1,380 เมตร  ข้ามแม่น้ำโขงมาถึงเมืองปากเซ  เมืองหลวงของแขวงจำปาสัก ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของลาว บรรยากาศโดยทั่วไปในเมืองปากเซ  เงียบสงบเป็นธรรมชาติ ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย 

"ปราสาทวัดพู" ห่างจากตัวเมืองจำปาสักออกไปทางทิศใต้ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร  ปราสาทวัดพู หรือ ชาวลาวพวกเราเรียกว่า วัดพูจำปาสัก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในอดีต

      ที่ตั้งของวัดพูเคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของแหล่งอาริยะธรรมโบราณถึง 3 สมัยด้วยกันคือ   








อาณาจักรอะไรบ้างนั้นผมจำไม่ได้ครับถ้าได้ไปแล้วไปหาชื้อหนังสือเกี่ยวกับสถานที่นี้ได้นะครับบนประตูทางเข้าเจ้าหน้าที่เข้าขาย และใจแต่ละปีนั้นจะมีงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่มากและเป็นเทศกาลที่โด่งดัง   และดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ  โดยจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี  ซึ่งจะจัด ติดต่อกัน 3 วัน เราเรียนกงานเทศกาลนี้ว่า “บุนวัดพูจำปาสัก” โดยประชาชนชาวลาวจากทั่วทุกแขวงจะเดินทางนำสิ่งของมาบวงสรวงบูชาตามจุด ต่างๆ  ในบริเวณองค์

ประธาน สำหรับในวันสุดท้ายพระสงฆ์จะออกมา บิณฑบาต พอตกค่ำจะมีพิธีเวียนเทียนไปรอบๆ องค์ประสาทวัดพู ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนสนใจลองไปเที่ยวสักครั้งขอโอกาดนี้เชีนชวนเลยละกันครับต่อไปเป็นอีกสถานที่ที่สวยที่สุดและโด่งดังมากๆใน Asia เลยก็ว่าได้นะเพราะว่าเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดใน Southeast Asia เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชื่อว่าน้ำตกคอนพระเพ็ง

น้ำตกคอนพระเพ็ง

     เป็นน้ำตก ขนาดใหญ่ที่สุดในเขตแม่น้ำโขงตอนล่าง ตั้งอยู่บนแก่งหินขนาดใหญ่ขวางกั้นเส้นทางการไหลของแม่น้ำโขงทั้งสาย มีลักษณะต่างระดับ กันสูงประมาณ 10 เมตร ซึ่งแม้จะมีชั้นของหินไม่สูงมากนัก แต่กระแสน้ำที่ไหลถาโถมกันลงมามีความรุนแรงมาก ด้วยแม่น้ำโขงทั้งสายไหลลงมาจากนั้นก็จะแยกออกมาเป็นหลายสายสาเหตุเพราะแรง ดันของน้ำจำนวนมหาศาลที่ไหลบ่าถาโถมกระหน่ำ ลงมาจากชั้นหินราวกับจะถล่มทลายแก่งหินอย่าดุดันและเกรี้ยวกราด สร้างความตื่นนา ที่น่าประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวสมกับคำร่ำลือและยกย่องให้เป็น Niagara Falls of Asia . ต่อไปเป็นสถานที่สุดท้ายสำหรับ section นี้ผมจะขอก่วาถึงน้ำตกที่มีความสวยงามที่แฝงไปด้วยอันตราย คือน้ำตกหลี่ผี

น้ำตกหลี่ผี 

ชื่อก็บ้งบอกแล้วว่าน่ากว่าขนาดไหนน้ำตกหลี่ผีตั้งอยู่ในเขตดอนคอน    ช่วงที่เหมาะสมแก่การเที่ยวชมคือเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน   เพราะคุณจะเห็นสายน้ำจำนวนมาก ในแก่งหลี่ผีที่ไหลถาโถมผ่านเนินหินโขดหินลงมาด้วยกำลังแรงแตกเป็นละอองสี ขาวไปทั่วแก่งดูสวยงามตื่นตามาก

     หลี่  เป็นภาษาลาว  หมายถึง  เครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่งมีลักษณะคล้ายลอบ  ส่วนคำว่า ผี  หมายถึงศพคนตาย   ซึ่งบริเวณน้ำตกหลี่ผีจะมีกระแสน้ำไหลบ่าตามพื้นที่ราบ ผ่านแผ่นหิน  แล้วไหลตกลงมาตรงช่องซอกเขาที่แตกแยกออกจากัน  กระแสน้ำสีเขียวเข้มในหน้าแล้งหรือสีชาในฤดูฝนจะไหลบ่าตกลงมาเบื้องล่าง  จากนั้นไหลบ่าตกลงมา เบื้องล่าง  จากนั้นจึงไหลไปตามรอยแยกของซอกเขาเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร   จุดที่พบศพจำนวนมากคือบริเวณร่องหินของน้ำตกหลี่ผี  บริเวณนี้กระแสน้ำจะไหลมารวมตัว กัน เป็นแอ่งขนาดใหญ่  จากนั้นน้ำจะวนไปมาแล้วจึงไหลตกลงไปด้านล่างซอกและหลืบหินแคบๆ  ทำให้ศพของทหารในสมัยสงครามอินโดจีนจำนวนมากลอยมาติดในหลี่จับปลา  ชาวลาวจึงเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่า  หลี่ผี

     เป็นไงบ้างครับเท่าที่ได้อ่านผมเล่ามามีเพื่อนๆคนไหนอยากไปเที่ยวชมบ้างครับ ผมขอแนะนำว่าก่อนไปให้หาข้อมูลเพี่มตึ่มอีกนะครับเพราะว่าผมเอาข้อมูลมาเขียนนี้เป็นประสบการของผมเองชิ่งผมไปนานแล้วครับ เดี่ยวลองติดตาม section หน้านะครับผมจะก่วาถึงสถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาตินะครับ